เมนู

คตสัญญกเถราปทานที่ 2 (82)


ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกกรรณิการ์ 7 ดอก


[84] เรามีอายุ 7 ปีโดยกำหนด บรรพชาเป็นสามเณร มีใจ
เลื่อมใส ได้ถวายบังคมพระบาทของพระศาสดา ได้โยน
ดอกไม้กรรณิการ์ 7 ดอกขึ้นไปในอากาศ อุทิศเฉพาะพระ-
พุทธเจ้าพระนามว่าติสสะ ผู้ทรงพระคุณอนันต์ดังสาคร.

มีใจยินดีและเลื่อมใส บูชาหนทางที่พระสุคตเสด็จดำเนิน
ได้กระทำอัญชลีด้วยมือทั้งสองของตน.

ในกัปที่ 92 แต่กัปนี้ ได้ทำกรรมใดในกาลนั้น ด้วยกรรม
นั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา.

ในกัปที่ 8 แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรคิ 3 ครั้ง มี
พระนามว่าอัคคิสิขะ ทรงสมบูรณ์ด้วยแก้ว 7 ประการ
มีพละมาก.

คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และ
อภิญญา 6 เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว
ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระคตสัญญกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ
ฉะนี้แล.
จบคตสัญญกเถราปทาน

82. อรรถกถาคตสัญยกเถราปทาน


อปทานของท่านพระคตสัญญกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ชาติยา
สตฺตวสฺโสหํ
ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลสมภารไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ
สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้น ๆ ในกาลแห่ง
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ติสสะ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง
ได้ศรัทธาด้วยอำนาจวาสนาที่คนทำไว้ในกาลก่อน บวชในกาลที่ตนมีอายุ
7 ขวบนั้นแล ได้ปรากฏโดยการกระทำการนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค-
เจ้านั้นเอง. วันหนึ่งท่านถือเอาดอกไม้ 7 ดอกที่ตั้งขึ้นในที่ที่เขาไถด้วยไถ
มีสีเขียวดุจสีแก้วมณีฉะนั้นเทียวบูชาบนอากาศ. ท่านการทำสมณธรรมจน
ตลอดอายุ ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านท่องเที่ยวอยู่ในเทวดาและมนุษย์ทั่งหลาย
ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง บรรลุนิติภาวะ
แล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์.
ครั้นภายหลัง ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดศรัทธา เมื่อจะ
ประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า สตฺตวสฺโสหํ ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ชาติยา สตฺตวสฺโส ความว่า ตั้งแต่
เวลาที่ออกจากท้องมารดา จนอายุครบ 7 ขวบ. บทว่า ปพฺพชึ อนคาริยํ
ความว่า ชื่อว่า อนคาริยะ เพราะกรรมอันเป็นประโยชน์แก่เรือน คือ
กสิกรรมและวาณิชกรรมไม่มี, ความว่า เราได้บวชในพระพุทธศาสนา.